การเปลี่ยนแปลงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างที่ดีคือเราอาจจะชอบการ์ตูนตอนเด็กแต่ไม่ชอบแล้วในตอนโต แต่การเปลี่ยนแปลงไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องแย่เสมอไป เพราะมันอาจเป็นสัญญาณของความเป็นผู้ใหญ่ของเรา แต่การเพิกเฉยต่อคำแนะนำในการตกแต่งบ้านอาจเป็นข้อผิดพลาด แนวปฏิบัติของเราคือสะสมเฟอร์นิเจอร์เก่าและราคาถูก แต่อาจมีบางช่วงที่เรามีเงินพอที่จะซื้อข้างของใหม่ได้เหมือนกัน
1. ธีมทะเล
ห้องน้ำหรือห้องนอนในธีมชายหาดเป็นเรื่องปกติในบ้าน แต่มักจะดูรกเกินไป ใครที่จะแต่งห้องแนวนี้ต้องทำด้วยความระมัดระวัง แทนที่จะใช้ของตกแต่งบ้านมากมาย ให้ลองผสมสีน้ำเงิน-เขียวปานกลางและสีขาว เพื่อสื่อถึงชายหาด และเพิ่มตู้ไม้แบบเรียบง่ายเพื่อสร้างธีมรีสอร์ท
2. โซฟาลาย
ผู้ที่ต้องการปรับปรุงบ้านควรเลือกโซฟาที่ไม่มีลวดลาย เพราะลวดลายจะทำให้บ้านดูไม่มีรสนิยม นอกจากนี้ยังให้ความรู้สึกว่ามันถูกสร้างขึ้นโดยคนที่ติดอยู่ในยุค 1960 โซฟา เก้าอี้ และเบาะรองนั่งลายดอกไม้ให้ความรู้สึกแบบ “อาวุโส”
3. ลายพิมพ์ดอกไม้
ลายใบไม้อาจเป็นหนึ่งในเทรนด์แฟชั่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่ไม่เป็นที่นิยมในการตกแต่งบ้าน ไม่สำคัญว่าเราจะมีโซฟาลายดอกมานานแล้วและยังต้องกำจัดมันทิ้งไป เฟอร์นิเจอร์และเครื่องตกแต่งลายดอกไม้เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ทำให้บ้านของเป็นของสตรีสูงอายุ
4. ไม่จัดระเบียบ
ผู้ที่มีสิ่งของเกลื่อนกลาดบนเก้าอี้และเคาน์เตอร์ อาจลองจัดเก็บให้เป็นระบบ เราอาจมองหาไอเดียจาก Pinterest เพื่อหาโซลูชันการจัดเก็บที่ยอดเยี่ยม เช่น ที่วางของและช่องเก็บของแบบซ่อน เราอาจหาตะกร้าน่ารักๆ มาวางบนตู้หนังสือ การจัดระเบียบที่ดีจะทำให้ชีวิตของเราดูลงตัวมากขึ้น
5. แกดเจ็ตโบราณ
เราตระหนักและเข้าใจว่าแกดเจ็ตอาจมีราคาสูง อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้คุณซื้อโทรทัศน์เครื่องใหม่ คงเป็นเพราะทีวีรุ่นเก่าหลังอ้วนจะทำให้บ้านเราเหมือนย้อนยุคไปในยุค 1990 โทรทัศน์สมัยใหม่มีสไตล์ที่โฉบเฉี่ยว บางเฉียบ และราคาไม่แพงมาก แต่ควรหลีกเลี่ยงโทรทัศน์ที่มีโลโก้
6. ผ้าคลุมโถสุขภัณฑ์
เราทราบดีอยู่แล้วว่าพรมและผ้าคลุมโถสุขภัณฑ์หนานุ่มนั้นล้าสมัยไปแล้ว ดังนั้นหากคุณยังไม่มี วัตถุที่อ่อนนุ่มจะทำให้ห้องน้ำดูเหมือนได้รับการออกแบบในช่วงปี 1990 ดังนั้นควรเปลี่ยนมาใช้พรมสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือผ้าคลุมที่สามารถกันกลิ่นเท้าได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้ห้องน้ำของเราดูทันสมัยยิ่งขึ้น
7. แขวนถ้วยชา
สันนิษฐานได้เลยว่ามีคนไม่กี่คนที่ดื่มชาจากถ้วยชา และแก้วนั้นน่าจะใช้งานได้จริงมากกว่าเพราะสามารถบรรจุของเหลวได้มากกว่า ถ้วยชายังให้บรรยากาศที่ซับซ้อนและล้าสมัย และในขณะที่บางคนชอบที่จะแขวนไว้ แต่ก็ไม่เหมาะสำหรับการตกแต่งบ้านของเรา
8. ห้องนั่งเล่นโชว์หรู
ผู้คนเคยเลียนแบบราชวงศ์วิคตอเรียโดยวางสิ่งของต่างๆ ไว้ในห้อง บางคนถึงกับจัดห้องในบ้านไว้ดฉยๆเพื่อให้ดูเหมือนว่าเราอาศัยอยู่ในคฤหาสน์วิคตอเรีย อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญสำหรับเราคือต้องใช้งานได้จริงมากขึ้น และเราอาจเริ่มต้นด้วยการให้ความสำคัญกับการใช้งานเหนือความหรูหรา นำสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกและแทนที่ด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ทันสมัยและใช้งานได้จริง
9. การใช้มู่ลี่แนวตั้ง
มู่ลี่แนวตั้งถือว่าล้าสมัยและไม่มีประโยชน์ มู่ลี่ให้ความรู้สึกว่าเราพักอยู่ในโมเทลริมทางยุค 1980 มู่ลี่แนวตั้งยังขาดความดึงดูดสายตาและใช้งานไม่สะดวก เราขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณกำจัดสิ่งเหล่านี้
10. โชว์ของโบราณ
เราทุกคนรู้ดีว่าพวกเราบางคนภูมิใจในคอลเลกชันถังวินเทจเพียงใด อย่างไรก็ตามเราต้องยอมรับว่าวัตถุเหล่านี้ไม่เหมาะสำหรับใช้เป็นของตกแต่งบ้าน เราสามารถเก็บของเก่าและของสะสมไว้ในห้องใต้ดินหรือผสมกับสิ่งของที่เรารักก็ได้ เราอาจใช้ของเก่าหรือของสะสมเป็นอุปกรณ์จัดดอกไม้ เป็นต้น
11. หุ้มพลาสติก
เราซาบซึ้งในความปรารถนาที่จะยืดอายุโซฟา แต่เราไม่แนะนำให้คลุมโซฟาด้วยพลาสติกเพื่อให้โซฟาปลอดภัย แม้ว่าจะอยู่ในสภาพสมบูรณ์แต่มันก็ไม่สวยงาม เราควรยอมเสี่ยงเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้โซฟาของเราดูไม่น่ามอง และเพื่อให้โซฟาของเราสามารถนั่งได้อย่างอิสระ เราสามารถปกปิดส่วนที่อ่อนแอได้ และทุกคนจะพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้
12. ไม่แทนที่อุปกรณ์แบบเก่า
พวกเราบางคนอาจเชื่อว่าการเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ล้าสมัยเป็นเรื่องสิ้นเปลือง แต่ก็อยากปรับให้บ้านดูทันสมัยอยู่เสมอ เปลี่ยนตัวยึดทองเหลืองเป็นทองแดงหรือบรอนซ์ จากนั้นเปลี่ยนตัวดึงลิ้นชักเป็นรุ่นกลม เรามั่นใจว่าคุณจะไม่ผิดหวังกับการตัดสินใจของคุณ
13. พืชปลอม
ไม่ควรนำต้นไม้ประดิษฐ์มาประดับบ้านของเรา เนื่องจากผู้มาเยือนจะสามารถบอกได้ว่าเป็นของปลอม นอกจากนี้ยังทำให้การตกแต่งภายในบ้านของเราย้อนกลับสู่ทศวรรษที่ 1990 ความคลั่งไคล้การตกแต่งบ้านด้วยต้นไม้ปลอมควรถูกผลักไสให้จมอยู่กับอดีตและไม่ต้องหวนกลับมาอีก
14. ทำให้ทุกอย่างแมทช์กัน
เราควรหยุดจับคู่ทุกอย่างในบ้านของเรา ตัวอย่างเช่น ถ้าเราทาห้องของเราเป็นสีฟ้า เราควรแน่ใจว่าไม่มีส่วนอื่นในห้องที่เป็นสีเดียวกัน เรายินดีเดิมพันว่าห้องนอนของแขกปัจจุบันไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของเฉดสี ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราแนะนำให้ปรับปรุงด้วยสิ่งของที่ตัดกับสีผนัง
15. ผ้าม่านสุดเชย
เราควรกำจัดผ้าม่านที่มีพู่หนัก ๆ หากยังมีอยู่ ควรเลือกผ้าม่านสีอ่อนแบบสีเดียวหรือแบบเรียบๆ มันจะช่วยเพิ่มรูปลักษณ์อันสวยงามของหน้าต่างมากกว่าผ้าเนื้อหนา เราควรหลีกเลี่ยงการตกแต่งหน้าต่างหากต้องการให้ทันสมัย
16. ม่านอาบน้ำ
ถ้าเรามีม่านอาบน้ำที่เป็นริ้วหรือเหมือนม่านในปราสาท เราควรเปลี่ยนม่านทันที งวดนี้ควรเลือกของพื้นๆน่ารักๆ ตัวอย่างเช่น อาจใช้พรมและถาดโลหะเพื่อเพิ่มลูกเล่นให้กับห้องน้ำของเรา สิ่งของเหล่านั้นจะดูยอดเยี่ยมในห้องน้ำของเรา
17. ใช้พรมทุกที่
พรมขนปุยเป็นที่นิยมอย่างมากในทศวรรษที่ 1970 และรูปแบบดังกล่าวน่าจะยังคงเป็นที่นิยมในช่วงเวลานั้น ข้อเสียอย่างหนึ่งของพรมขนปุยก็คือ ทำความสะอาดยาก ซึ่งแตกต่างจากพรมทั่วไป หากเราต้องการพรม เราควรเลือกพรมที่ทนทาน ซึ่งแตกต่างจากขนปุยตรงที่ซักในเครื่องซักผ้าได้
18. กระจกกรอบทอง
ถ้าเราไม่มีเฟอร์นิเจอร์ติดผนัง กระจกจะทำให้ห้องดูใหญ่ขึ้นมาก เราควรระลึกไว้เสมอว่ากระจกโบราณกรอบทองจะทำให้พื้นที่ของเราดูเชย เราควรเลือกกระจกที่ไม่มีโครงหากต้องการกระจกที่ดูทันสมัย
19. ใช้สีและลวดลายมากเกินไป
แม้ก่อนหน้านี้เราจะระบุว่า ไม่จำเป็นต้องให้ทุกอย่างในบ้านแมทช์สีเดียวกัน แต่การมีดีไซน์และสีที่แตกต่างกันมากเกินไปจะทำให้บ้านของเราดูน่าเกลียด เราควรพยายามใช้โทนสีที่มีรูปแบบเฉพาะ อาจทำให้เกิดความสับสนได้หากสีของผนัง ผ้าม่าน ผ้าปูที่นอน และเครื่องเรือนของเราแตกต่างกันทั้งหมด การผสมผสานรูปแบบและสีเข้าด้วยกันเป็นเรื่องปกติ แต่เราไม่ควรเยอะเกินไป
20. หมอนมากเกินไป
เป็นที่ทราบกันดีว่าหมอนนุ่มและสบาย แต่การมีหมอนมากเกินไปอาจเป็นปัญหาได้ เมื่อแขกนั่งหรือนอนบนโซฟาหรือเตียง พวกเขาอาจไม่พอใจ เราไม่สามารถนึกถึงเหตุผลว่าทำไมทุกคนถึงต้องการหมอนมากเกินไปในบ้านของพวกเขา และคนเหล่านั้นอาจต้องการเริ่มต้นการต่อสู้กับหมอนหรืออะไรบางอย่าง ในทางกลับกัน การมีหมอนมากเกินไปจะทำให้บ้านของเราดูน่ากลัวหรือแออัดเกินไป